แนวโน้มตลาดทองคำ

ปรับตัวลง

  • ราคาทองคำปรับลดลง (-19.80) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.84%)
  • ปิดตลาดที่ระดับ 2,332 ดอลลาร์

Gold spot
สูงสุด – 2,359 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,320 ดอลลาร์

ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,600 บาท
ต่ำสุด – 40,400 บาท

ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา

ราคาทองคำ spot เริ่มปรับตัวลดลง โดยเงินดอลลาร์แข็งค่ากดดันราคาทองคำ ภายหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 3.5% สูงกว่าตลาดคาด ทำให้เจ้าหน้าที่เฟดอาจต้องการความมั่นใจว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลง ก่อนที่จะเริ่มลดดอกเบี้ย ตลาดเริ่มปรับเปลี่ยนมุมมองการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.  ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 0.26 ตัน

.

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% จาก 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 2.3% จาก 1.6% เมื่อเทียบรายปี นอกจากนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป และการแถลงของธนาคารกลางยุโรป

.

วิเคราะห์ราคาทอง

เกิดแท่งเทียนสีแดงลากยาว และ Low และ High ต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า ขณะที่สัญญาณจาก Modified Stochastic เข้าสู่ Overbought และเส้นเริ่มตัดกัน ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงระยะสั้น หากหลุด 2,330 ดอลลาร์ มีโอกาสปรับตัวลงไปสู่ 2,300 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,330 และ 2,320 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,350 และ 2,360 ดอลลาร์

.

สำหรับคนที่ไม่ชอบความเสี่ยง อาจเลี่ยงการลงทุนไปก่อนที่ตลาดจะปิดทำการในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ หากคนที่ต้องการเทรดระยะสั้น จับตาที่แนวรับ 2,330 ดอลลาร์ หากหลุดแนวรับดังกล่าว ให้เปิดสถานะขายที่ 2,330 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,340 ดอลลาร์ และ Take Profit ที่ 2,300 ดอลลาร์ ซึ่งเน้นเก็งกำไรระยะสั้น และเข้าออกเร็ว

ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 40,500 และ 40,400 บาท
แนวต้าน 40,700 และ 40,800 บาท

.

ดอลลาร์แข็งค่าอย่างมาก ทำให้เงินบาทกลับมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว แต่ราคาทองโลกได้ปรับตัวลง จึงอาจทำให้ราคาทองคำแท่งปรับตัวลงไม่มากนัก สำหรับคนเข้าซื้อทองคำแท่งไว้อาจทำกำไรบางส่วน ส่วนการรอเข้าซื้อทองคำให้ Wait & see ไปก่อน